วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

ทฤษฎีบุคลิกภาพของซัลลิแวน

แฮรี  สแต็ค ซัลลิแวน (Harry Stack Sullivan) ซัลลิแวน  เกิดเมื่อวันที่  21 กุมภาพันธ์ ค.ศ.  1892 
ที่มลรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 มกราคม ค.ศ.  1949  ที่กรุงปารีส  ประเทศฝรั่งเศส ได้รับปริญญาแพทย์ศาสตร์  จากวิทยาลัยทางการแพทย์ของชิคาโก  ได้เข้าเป็นแพทย์ทหารในสงครามโลกครั้งที่  2  เมื่อสงครามยุติลงเขาได้รับราชการเป็นแพทย์ในสถาบันต่างๆ  ต่อมาได้ทำงานในคณะแพทย์ศาสตร์  มหาวิทยาลัยแมรีแลนด์  ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาได้ศึกษาโรคจิตเภทที่มีมากในขณะนั้น 

แฮรี  สแต็ค ซัลลิแวน 
 ซัลลิแวน  เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์  นักกล่าวสุนทรพจน์ทางด้านจิตเวช  เป็นผู้นำในการฝึกฝนจิตแพทย์ในด้านบุคลิกภาพ  เขาได้เริ่มตั้งทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลตั้งแต่ปี  ค.ศ.  1929 และสำเร็จในกลางปี  ค.ศ. 1930  ตลอดชีวิตของซัลลิแวนได้มีผลงานการเขียนเพียงเล่มเดียว  คือ  ทฤษฎีบุคลิกภาพในปี  1947
โครงสร้างบุคลิกภาพ  (Structure  of  Personality) 
ซัลลิแวน  เห็นว่าพันธุกรรมมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการวางรากฐานความเจริญเติบโตและต้องมีความสมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมซึ่งได้แก่  บุคคล  สภาพการณ์ต่างๆ  มนุษย์ต้องเรียนรู้การอยูร่วมกัน  ทำงานร่วมกัน  และจัดสิ่งเหล่านี้ให้เป็นระบบ  เขาได้อธิบายว่าพฤติกรรมของบุคคลที่แตกต่างกันนั้นเกิดจากการทำงานประสานกันของระบบทั้ง  3 คือ การแปรผัน (Dynamism) กระบวนการของพฤติกรรม (Patterm) และการแปรผันพลังจิต  (Dynamism of  Psychiatry)  ซึ่งทำให้เกิดความเครียด (Tension) บุคคลก็จะแสดงพฤติกรรมตามประสบการณ์ที่ตนเคยรับรู้  ทำให้เกิดการผ่อนคลาย  (Euphoria)  นอกจากนี้ความเครียดของบุคคลอาจเกิดจากความต้องการ  (Need)  ซึ่งไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้เสียสมดุลของชีวิต  หรือความเครียดอาจเกิดจากความกังวล  (Anxiety)  ที่บุคคลไม่รู้สึกอบอุ่นหรือมั่นคงในเรื่องของความรักระบบตน  (Self  System)  พ่อแม่จะเป็นผู้ปรุงแต่งบุคลิกภาพเบื้องต้นให้แก่ทารกจนกว่าทารกจะรับรู้และสามารถสร้างภาพตนเองขึ้นมาได้ว่า  “ฉันดี” (Good  Me) “ฉันเลว”  (Bad  Me)  และ  “ไม่ใช่ฉัน” (Not  Me)  โดยที่ทารกจะได้รับประสบการณ์  3 ด้าน  ดังนี้
1) ประสบการณ์ที่ได้รับคำชมเชย
2) ประสบการณ์ที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลทีละน้อยสะสม
3) ประสบการณ์ที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลรุนแรงเฉียบพลัน
ซัลลิแวน  ได้อธิบายถึงความสัมพันธ์ของทารกที่มีต่อพ่อแม่ว่าเป็นรากฐานในการแปรผันพลัง  (Dynamism)  ในวัยต่อมา  ทารกสามารถสร้างความอบอุ่นมั่นคงแก่ตนเองได้  เมื่อพบเหตุการณ์ไม่ต้องการ  และในการสร้างภาพตนเองเกิดจากประสบการณ์ดังนี้
1.ภาพตนเองที่ว่า  “ฉันดี”  (Good  Me  Self)  จะเกิดจากประสบการณ์ที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูจากแม่ที่ให้ความรู้สึกรักใคร่  อ่อนโยน  เอาใจใส่อย่างใกล้ชิด  เป็นห่วงเป็นใยซึ่งทารกจะเกิดความพึงพอใจ
2. ภาพตนเองที่ว่า  “ฉันเลว”  (Bad  Me  Self)  เกิดจากประสบการณ์ที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูแบบทอดทิ้ง  ไม่ดูแล  ไม่ตอบสนองความต้องการของทารก  ทำให้ทารกเกิดความไม่พอใจเกิดความวิตกกังวล
3.  ภาพ  “ไม่ใช่ฉัน”  (Not  Me)  เกิดจากการที่ทารกได้รับประสบการณ์ในลักษณะขู่เข็ญหรือเกิดความหวาดกลัวอย่างรุนแรง  ทำให้เกิดความวิตกกังวลสูง  และแสดงพฤติกรรมออกมาในเชิงปฏิเสธว่า  “ไม่ใช่ฉัน”  เพราะเป็นสิ่งที่ทารกไม่ต้องการรับรู้อย่างยิ่ง



อ้างอิง

พระจันทร์รุ่งสาง.โครงสร้างบุคลิกภาพ(ออนไลน์).สืบค้นจาก: http://hlinzaii.50webs.com/j9_7.htm.
     (18 มกราคม 2559)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น